วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

(เตมียชาดก)

เตมิยชาดก  

ชาติที่ 1 เพื่อบำเพ็ญเนกขัมมบารมี - เตมียชาดก (เต) เป็นชาติแรกในทศชาติชาดก ก่อนที่จะมาตรัสรู้เป็นสมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านามพระโคดม ชาตินี้ พระองค์ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี หมายถึง การละทิ้งจากกามคุณทั้ง 5
เรื่องย่อเตมิยชาดก  
พระเตมีย์ชาดกเป็นหนึ่งในสิบเรื่องของทศชาติชาดก (10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ) ที่ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี ซึ่งหมายถึงการละกามคุณทั้ง 5 (รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสที่น่าปรารถนา)

เมื่อพระเตมีย์อายุได้เพียง 1 เดือน ก็สามารถระลึกชาติได้ หลังจากที่เห็นพระบิดา คือพระเจ้ากาสิกราช ผู้ครองเมืองพาราณสี ลงโทษประหารชีวิตโจร 4 คน  ทรงระลึกได้ว่า ก่อนตนมาเกิดได้เสวยสุขอยู่ในสวรรค์ แต่ก่อนหน้านั้นก็เคยตกนรกอยู่นานถึงแปดหมื่นปี เนื่องจากเคยเกิดเป็นพระราชาและได้ลงโทษตัดสินประหารชีวิตคนมาไม่ใช่น้อย

ด้วยเหตุนี้ จึงตั้งใจว่าจะไม่ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา  เลยแกล้งทำเป็นคนพิการ ง่อยเปลี้ย หูหนวกและเป็นใบ้อยู่ถึง 16 ปี  จนถูกพวกพราหมณ์โหราจารย์ใส่ร้ายว่าเป็นกาลกิณี ต้องนำไปฝังทั้งเป็น
มื่อไปถึงป่ารกครึ้มพ้นจากพระนครแล้ว พระเตมีย์จึงแสดงตนว่าเป็นคนปกติ  แล้วตรัสสั่งสอนนายสุนันทะคนขับรถผู้ที่จะฝังตน จนเลื่อมใสต้องการบวชตามพระองค์
หลังจากนั้นพระเตมีย์ได้แสดงธรรมให้พระบิดาและผู้คนเป็นจำนวนมาก จนเกิดความเลื่อมใสต่างพากันออกบวช  

คำสอนเตือนสติในพระเตมีย์ชาดกมีมากมายหลายข้อ เช่นคนเราไม่ว่ายังหนุ่มยังสาว ก็ตายได้  ใครเล่าจะพึงวางใจในชีวิตว่าเรายังหนุ่มยังสาวอยู่ แล้วจะยังไม่ตาย  อายุของคนเราเป็นของน้อยนัก เพราะวันคืนล่วงไปๆเหมือนอายุของปลาทั้งหลายในแม่น้ำน้อย...
สัตว์โลกถูกความตายครอบงำไว้  ถูกชราห้อมล้อมไว้  สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์คือคืนวันเป็นไปอยู่...
คำสอนนี้เตือนให้เราไม่ประมาทต่อชีวิต  เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องตายเมื่อไร  รวมทั้งทุกคนจะหนีความตายและความชราไปไม่พ้น  ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะหลงใหลไปกับกามคุณ 5  จึงควรเร่งทำความดีด้วยการเจริญกุศลทั้งปวง
ทรัพย์ย่อมทิ้งบุคคลไปก่อนก็มี  บางทีบุคคลก็ทิ้งทรัพย์ไปก่อนก็มี  แม้สิ่งอื่นๆก็เหมือนกันทั้งนั้น...
อันนี้เตือนสติให้เห็นว่า ทรัพย์สมบัติต่างๆในโลกล้วนเป็นของไม่เที่ยง เมื่อถึงเวลาก็หมดสิ้นไปตามเหตุปัจจัย  รวมถึงตัวเราเองก็ไม่เที่ยง  ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าตลอดไป  จึงไม่ควรยึดติดในทรัพย์สมบัติทั้งหลาย รวมทั้งตัวตนของเราด้วย  เพราะไม่มีอะไรที่เที่ยงและไม่มีอะไรที่เป็นของเราจริงๆ
เนกขัมมบารมีไม่ได้เพียงหมายความถึงการออกบวชเท่านั้น  แต่หมายถึงการเพียรที่จะละความติดข้องยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  ลองไม่ดูหนัง ฟังเพลง หาของอร่อยกิน ฯลฯ สักวันสองวัน ก็จะรู้ได้เลยว่าทำได้ยากจริงๆ
  
ต้องอาศัยปัญญาที่เข้าใจในเรื่องเนกขัมมจริงๆ  รวมทั้งยังต้องพร้อมด้วยวิริยบารมีและขันติบารมี ที่จะเป็นผู้อดทนไม่หวั่นไหวในกามคุณทั้ง 5 อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น